เมนู

อนุตตริยวรรคที่ 3


1. สามกสูตร


ว่าด้วยธรรมที่ทำให้เสื่อม 6 ประการ


[292] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ วิหาร ชื่อ
โปกขรณีย์ ใกล้หมู่บ้านสามคาม แคว้นสักกะ ครั้งนั้น เทวดาองค์หนึ่ง เมื่อ
ปฐมยามผ่านไป มีวรรณะงามยิ่งนัก ยังโปกขรณียวิหารทั้งสิ้นให้สว่างไสว
แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ธรรม 3 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุ ธรรม 3 ประการ
เป็นไฉน ? คือความเป็นผู้ชอบการงาน 1 ความเป็นผู้ชอบคุย 1 ความเป็น
ผู้หลับ 1 ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 3 ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อ
ความเสื่อมแก่ภิกษุ เทวดาองค์นั้นได้กล่าวคำนี้แล้ว พระศาสดาทรงพอพระ
ทัย ครั้งนั้น เทวดาองค์นั้นทราบว่า พระศาสดาของเราทรงพอพระทัย จึง
ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้วหายไป ณ ที่นั้น.
ครั้งนั้น เมื่อราตรีนั้นล่วงไป พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกะภิกษุทั้งหลาย
ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อคืนนี้ เทวดาองค์หนึ่ง เมื่อปฐมยามล่วงไปแล้ว
มีวรรณะงามยิ่งนัก ยังโปกขรณียวิหารทั้งสิ้นให้สว่างไสว แล้วเข้ามาหาเราถึง
ที่อยู่อภิวาทแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะเราว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 3 ประการนี้ ย่อมเป็นเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุ
ธรรม 3 ประการเป็นไฉน ? คือ ความเป็นผู้ชอบการงาน 1 ความเป็น

ผู้ชอบคุย 1 ความเป็นผู้ชอบหลับ 1 ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 3
ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมแก่ภิกษุ ครั้นเทวดาองค์นั้นได้กล่าว
คำนี้แล้ว อภิวาทเราทำประทักษิณแล้วได้หายไป ณ ที่นั้น ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย มิใช่ลาภของเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายได้ด้วยยาก ที่เธอทั้งหลาย
เสื่อมจากกุศลธรรม แม้เทวดาก็รู้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงธรรม
เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม 3 ประการแม้เหล่าอื่น เธอทั้งหลายจงฟัง จงใส่
ใจให้ดี เราจักกล่าว ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม
3 ประการเป็นไฉน ? คือ ความเป็นผู้ชอบคลุกคลีด้วยหมู่คณะ 1 ความ
เป็นผู้ว่ายาก 1 ความเป็นผู้มีมิตรชั่ว 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 3
ประการนี้แล เป็นที่ตั้งแห่งความเสื่อม ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอดีตกาลเสื่อม
จากกุศลธรรม ชนเหล่านั้นทั้งปวง ก็เสื่อมแล้วจากกุศลธรรม เพราะธรรม
6 ประการนี้แล ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งในอนาคตกาล จักเสื่อมจากกุศลธรรม
ชนเหล่านั้นทั้งปวง ก็จักเสื่อมจากกุศลธรรม เพราะธรรม 6 ประการนี้แล
และชนเหล่าใดเหล่าหนึ่งในปัจจุบันกาล ย่อมเสื่อมจากกุศลธรรม ชนเหล่า
นั้นทั้งปวง ย่อมเสื่อมจากกุศลธรรมเพราะธรรม 6 ประการนี้แล.
จบสามกสูตรที่ 1

อนุตตริยวรรควรรณนาที่ 3


อรรถกถาสามกสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในสามกสูตรที่ 1 แห่งอนุตตริยวรรค ที่ 3
ดังต่อไปนี้:-
บทว่า สามคามเก ความว่า ในหมู่บ้านที่ได้นามอย่างนี้ เพราะมี
หินลับมีดหนาแน่น. บทว่า โปกฺขรณิยายํ ได้แก่ ในวิหารมีนามว่า
โปกขรณิย์. บทว่า อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา ความว่า เมื่อผ่านปฐมยาม
แห่งรัตติกาล ย่างเข้า มัชฌิมยาม. บทว่า อภิกฺภนฺตวณฺณา ได้แก่มี
วรรณะงดงามน่าพอใจยิ่ง. บทว่า เกวลกปฺปํ ได้แก่ทั่วทั้งหมด. บทว่า
โปกฺขรณิยํ โอกาเสตฺวา ความว่า แผ่รัศมี (โอภาส) ของตนไปตลอด
มหาวิหาร ที่ได้นามว่า โปกขรณิย์. บทว่า สมนุญฺโญ ความว่า ทรง
พอพระทัย คือมีจิตสม่ำเสมอ. บทว่า โทวจสฺสตา ได้แก่ความเป็นผู้ว่า
ยาก. บทว่า ปาปมิตฺตตา ได้แก่ความเป็นผู้มีคนชั่วเป็นมิตร. ในพระสูตรนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส ปริหานิยธรรม (ธรรมที่เป็นไปเพื่อความเสื่อม)
ไว้อย่างเดียว.
จบอรรถกถาปฐมสามกสูตรที่ 1